“เอซุส” เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีสำหรับผู้บริโภค

“เอซุส” เร่งเครื่องสู้ตลาดปลายปี เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีสำหรับผู้บริโภค
โชว์สุดยอดนวัตกรรมเดสก์ท็อปพีซีใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Microsoft® Windows® 7



พร้อมรับประกันความมั่นใจด้วยเงื่อนไขการซ่อมแบบออนไซต์เซอร์วิส        เต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทยนานถึง 3 ปี นำเสนอฟีเจอร์ล้ำนวัตกรรม ตอบทุกโจทย์ความต้องการ ด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เกมมิ่ง เพอร์ฟอร์มแมนซ์ และไลฟ์สไตล์ เพื่อการใช้งานอันครอบคลุม
กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม (โอพี บีจี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “เอซุส” ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ประกาศเปิดตัวธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือเดสก์ท็อปพีซี สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคลงสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีใหม่ของแบรนด์เอซุสนี้        มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอนวัตกรรมอันล้ำหน้า ผนวกฟีเจอร์และคุณสมบัติมากมายที่หาไม่ได้ในแบรนด์อื่นๆ  ซึ่งจะมุ่งตอบสนองความต้องการอย่างครบครันสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ โดยไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีของเอซุสแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มเกมมิ่ง (Gaming PCs) กลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์ (Performance PCs) และกลุ่มไลฟ์สไตล์ (Lifestyle PCs) ทั้งนี้ ทางกลุ่มธุรกิจโอพี บีจี ของเอซุส ประเทศไทย หวังสร้างส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี เผยตลาดไอทีช่วงไตรมาส 4 มีแนวโน้มสดใส พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคด้วยการรับประกันแบบออนไซต์เซอร์วิส รับซ่อมทุกชิ้นส่วนภายในเครื่องพีซีฟรีถึงบ้านนานถึง 3 ปีในทุกกรณี โดยเอซุสเป็นเจ้าแรกของอุตสาหกรรมที่นำเสนอเงื่อนไขการบริการซ่อมถึงบ้านฟรีอย่างเต็มรูปแบบดังกล่าว

คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ปัจจุบันเอซุสเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในส่วนของอุปกรณ์คอมโพเน้นต์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์ สำหรับภาพรวมตลาดไอทีในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้คาดว่ามีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง อันเป็นสาเหตุมาจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดโดยแบรนด์ต่างๆ เช่นระบบปฏิบัติการWindows 8 โดยไมโครซ้อฟท์, ไมโครโปรเซสเซอร์ Ivy Bridge โดยอินเทล และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ผู้บริโภคไม่รั้งรอที่จะหาซื้อสินค้าไอทีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในช่วงสิ้นปีนี้ และส่งผลให้ตลาดเกิดความคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม และในช่วงที่ตลาดกำลังได้รับการกระตุ้นนี้เอง จึงเป็นโอกาสที่ทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะเปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์ของเอซุสเองสำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย โดยทางบริษัทแม่ที่ไต้หวัน ได้ทำการนำร่องธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีของเราในตลาดประเทศญี่ปุ่น และในอเมริกาเหนือเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา และปรากฎว่าเกิดกระแสการตอบรับที่ดีเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นผลมาจากชื่อเสียงของเอซุสในฐานะแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งด้านการผลิตอุปกรณ์คอมโพแน้นต์ต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบภายในของเครื่องพีซีอยู่แล้ว รวมถึงยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและมีรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด อ็อพติคอลดิสก์ไดร้ฟว์ (ODD) ไปจนถึงเคสที่มีความคงทนแข็งแรง นั่นเป็นที่มาของการเริ่มต้นเปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์ของเอซุสเอง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้นำเสนอไลน์ผลิตภัณฑ์ลงสู่ตลาดคอนซูมเมอร์ในประเทศไทย”
“ในปี 2555 นี้ ถือเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีที่เอซุสได้มีโอกาสทำตลาดพีซีคอมเมอร์เชียล หรือตลาดสำหรับลูกค้าองค์กรต่างๆ มาตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเราได้เข้าร่วมประมูลและผลิตเดสก์ท็อปพีซีให้กับโครงการต่างๆ มากมายในส่วนของหน่วยงานราชการ โดยเราร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดหาอุปกรณ์พีซีตั้งโต๊ะให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การดูแลของสพฐ. โดยในปีนี้ มีปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้กับเอซุสอย่างหนึ่ง คือการหน่วยงานต่างๆ ได้หันมาเปลี่ยนกฎข้อบังคับใหม่ซึ่งกำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่จะนำมาใช้งานเป็นทรัพย์สินของทางราชการนั้น ต้องมีส่วนประกอบภายในที่มาจากแบรนด์เดียวกันทั้งหมด ทำให้เอซุสได้มีโอกาสเข้ามาผลิตเดสก์ท็อปพีซีในส่วนของตลาดคอมเมอร์เชียลนี้มากขึ้น และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์เอซุสในเบื้องต้นอยู่ที่ 1% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และสำหรับในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ตลาดคอนซูมเมอร์มีการอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เราจึงตัดสินใจส่งไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีลงสู่ตลาดคอนซูมเมอร์ โดยเอซุสได้ตั้งเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งธุรกิจพีซีคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 3 % ภายในสิ้นปี ซึ่งสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีของเอซุสระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์จาก 100 % จะอยู่ที่ประมาณ 80 ต่อ 20” คุณมนต์ธีร์ ชี้แจง

“สำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราประกอบด้วยเดสก์ท็อปพีซีที่ครอบคลุมลักษณะการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ของผู้บริโภคที่มาพร้อม Microsoft® Windows® 7 โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1) กลุ่มเกมมิ่งพีซี (Gaming PCs) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคอเกมที่ต้องการสมรรถนะความแรงของเดสก์ท็อปและกราฟฟิกส์คุณภาพดีเลิศทั้งจากแบรนด์เอซุส และ ROG (Republic of Gamers) ซึ่งเป็นซีรีส์สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มเกมมิ่งพีซีนี้แบ่งย่อยออกเป็น 2 เซ็กเม้นต์ ได้แก่ เกมมิ่งพีซีสำหรับการเล่นเกมทั่วไปตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นที่มีสเป็คสูง และเอ็กซ์ตรีมเกมมิ่งพีซี ซึ่งตอบโจทย์ของเกมเมอร์ระดับฮาร์คอร์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะอันเหนือชั้น เหมาะสำหรับการใช้งานเครื่องแบบสมบุกสมบัน การโอเวอร์คล็อกที่แรงกว่า หรือการเล่นเกมที่สูบทรัพยากรเครื่องอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานานติดต่อกัน โดยเดสก์ท็อปในกลุ่มเอ็กซ์ตรีมเกมมิ่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์พิเศษซึ่งล้ำหน้ากว่ารุ่นอื่นๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่แรงและดีที่สุดของมาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด ไปจนถึงชิพประมวลผลที่มีอยู่ในตลาด ณ เวลานั้นๆ 2) กลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์พีซี (Performance PCs) เป็นกลุ่มพีซีที่สามารถรองรับความต้องการเฉพาะทางซึ่งต้องอาศัยประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องสูง อาทิ การออกแบบกราฟฟิกส์ การใช้งานด้านสถาปัตยกรรม การชมภาพยนตร์ และการใช้งานด้านความบันเทิงระดับคุณภาพต่างๆ และ 3 ) กลุ่มไลฟ์สไตล์พีซี (Lifestyle PCs) เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีที่รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานในออฟฟิศ การศึกษา ความบันเทิงด้านต่างๆ ฯลฯ โดยเน้นความคุ้มค่าและการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า เราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด” คุณมนต์ธีร์ กล่าวต่อไป

สำหรับการเปิดตัวธุรกิจครั้งนี้  เอซุส ได้นำเสนอนวัตกรรมเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูงที่เป็นรุ่นไฮเอ็นด์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย นำทีมโดย “ROG TYTAN CG8890” เดสก์ท็อปพีซีรุ่นเรือธงสำหรับการเล่นเกมแบบแรงเกินพิกัดในแบบเอ็กซ์ตรีมที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกต่างเฝ้ารอ โดยเกมมิ่งเดสก์ท็อปรุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซีพียู Intel® Core™ i7-3960X Processor ใหม่ล่าสุด และโหมดพิเศษ Turbo Gear ที่ใช้ในการโอเวอร์คล็อกได้แบบพร้อมกันทันทีถึง 6 Core พร้อมกราฟฟิกส์การ์ดสมรรถนะแรงจัดจาก NVIDIA® รุ่น GeForce® GTX 690 ที่รองรับการใช้งานพร้อมกันถึง 4 หน้าจอ พ่วงด้วยสุดยอดคุณภาพเสียงจากASUS Xonar DX ซาวด์การ์ดที่ให้เสียงคมชัดมากขึ้นกว่าปกติ 35 เท่าเมื่อเทียบกับการ์ดเสียงออนบอร์ดบนพีซีทั่วไป และนอกจากนี้ดีไซน์ของเคสยังมีความโดดเด่นให้มีช่องระบายความร้อนกว่า 10 ช่องทาง โดยเมื่อเปิดเครื่อง ปีกด้านข้างของเคสจะสยายออกและมองเห็นพัดลมระบายอากาศเรืองแสงสีแดง พร้อมไฟแสดงสถานะของโหมดการใช้งานเป็นแสงสีฟ้าและสีแดง นอกเหนือจากเดสก์ท็อปพีซีรุ่นเรือธงดังกล่าวแล้ว   ยังตามมาด้วยรุ่น ROG CG8580 TYTAN Gaming Desktop PC ซึ่งเป็นไฮไลท์ของกลุ่มเกมมิ่งพีซีสำหรับเกมเมอร์สุดระห่ำที่ต้องการอรรถรสในการเล่นเกมให้มันส์สะใจยิ่งขึ้นกับการอัพเกรด CPU ใหม่ สำหรับพีซีที่เป็นตัวชูโรงในกลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ได้แก่ ASUS CG8270 Performance Desktop PC ที่สามารถตอบทุกโจทย์การทำงานภายในบ้านและงานเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือแม้แต่ทำงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ ก้อไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และไฮท์ไลท์สุดท้ายในกลุ่มไลฟ์สไตล์พีซี ได้แก่ ASUS CM1740 Lifestyle Desktop PC ที่มีเทคโนโลยี APU ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านมัลมิเดียได้อย่างครบครัน มอบอรรถรสและความสนุกแก่การใช้งานได้ภายในราคาที่คุ้มค่า
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีใหม่ล่าสุดจากเอซุสมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Microsoft® Windows® 7 ที่พร้อมอัพเกรดขึ้นเป็น Microsoft® Windows® 8 ได้อย่างไร้ปัญหา
“ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเดสก์ท็อปพีซี เราได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราด้วยกัน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 2 เท่า โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจโอพี บีจี เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาด โดยเราเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มตัวผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ รวมไปถึงการทำการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) นอกจากนี้เรายังเน้นการสร้างกระแสการรับรู้จากผู้บริโภคทั่วไปจากการทำประชาสัมพันธ์ตรงจุดขายหน้าร้านเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคโดยเปิดโอกาสให้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง นอกจากนี้เอซุส ยังตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าโดยให้บริการรับประกันสินค้าแบบออนไซต์เซอร์วิส หรือรับซ่อมส่วนประกอบทุกชิ้นถึงบ้านนานถึง 3 ปีเป็นเจ้าแรก โดยเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่ดีที่สุด และเป็นการซ่อมให้ในทุกกรณีหากเป็นส่วนประกอบแรกเริ่มที่มาพร้อมกับเครื่องพีซีที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายของเอซุส โดยผู้บริโภคสามารถรับบริการซ่อมแบบออนไซต์เซอร์วิสนี้ได้อย่างสะดวกสบายผ่านเอซุส คอลเซ็นเตอร์ ที่หมายเลข 02-4011-717”
“ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2555 นี้ จะยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ด อย่างต่อเนื่องในตลาดประเทศไทย พร้อมเพิ่มการเติบโตในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์คโซลูชั่นที่กำลังมาแรงและมีอัตราเติบโตถึง 150% ในไตรมาสสุดท้ายนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซี อย่างที่ได้เรียนไปข้างต้น เรามีเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งในส่วนของพีซีคอมเมอร์เชียลและพีซีคอนซูมเมอร์อยู่ที่ประมาณ 3 % ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายรวมของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มบรรลุถึง 1,600 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในสิ้นปี 2555 นี้” คุณมนต์ธีร์ กล่าวทิ้งท้าย
เตรียมพบกับไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีจากเอซุสวันนี้ ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY