ซัมซุงรุกตลาดมิร์เรอร์เลส เปิด 3 รุ่นใหม่ ชูแนวคิดสมาร์ทคาเมราที่สามารถแชร์ภาพได้ทันทีผ่านไวไฟรายแรกในตลาด หลังพบพฤติกรรมคนไทยชอบถ่ายภาพคุณภาพสูงแล้วแชร์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ตลาดรวมกล้องดิจิตอลในไทยถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว ตัวเลขจากจีเอฟเคระบุว่า ปีนี้ตลาดรวมกล้องดิจิตอลมีจำนวนประมาณ 1.4 ล้านกล้อง หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกล้องคอมแพกต์ 90% กล้องดีเอสแอลอาร์ 8% ที่เหลือประมาณ 2-3% เป็นกล้องดิจิตอลเปลี่ยนเลนส์ได้ที่ไม่มีกระจกสะท้อน หรือมิร์เรอร์เลส ซึ่งตลาดนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วที่มีจำนวน 2 หมื่นกล้อง โดยในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5-6 หมื่นกล้อง หรือเติบโตกว่า 143% ในแง่ยูนิต และ 160% ในด้านมูลค่า
การที่ตลาดมิร์เรอร์เลสเติบโตอย่างมากเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีความต้องการภาพถ่ายที่มีความคมชัดกว่ากล้องคอมแพกต์ธรรมดา แต่จะต้องมีน้ำหนักที่ไม่มากเท่ากับกล้องดีเอสแอลอาร์ และจะต้องมีดีไซน์ที่สวยงามอีกด้วย ประกอบกับกระแสของโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแรงทำให้มีความต้องการที่จะแชร์รูปที่ถ่ายเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาสุดประทับใจได้ทันที
ในปีนี้ เพื่อตอบรับกระแสดังกล่าวซัมซุงได้นำกล้องมิร์เรอร์เลสในตระกูลเอ็นเอ็กซ์ซีรีส์เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนจำนวน 3 รุ่น คือ NX 1000 ราคา 21,990 บาท (พร้อมเลนส์ 20-50 มม.) ดีไซน์กะทัดรัดสวยสะดุดตา, NX 210 ราคา 27,990 บาท (พร้อมเลนส์ 18-55 มม.) สีเมทัลลิก หน้าจออะโมเล็ดขนาดใหญ่ 3 นิ้ว ช่วยให้รับชมภาพถ่ายและวิดีโอในแบบ Full HD และ NX 20 ราคา 34,990 บาท (พร้อมเลนส์ 18-55 มม.) สำหรับมือสมัครเล่นที่จริงจังกับการถ่ายภาพหรือช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการความคล่องตัวสูง ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/8000s พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์แบบเอสวีจีเอ
“ทั้ง 3 รุ่นเป็นกล้องมิร์เรอร์เลสที่มาพร้อมกับไวไฟในตัวกล้องครั้งแรกของโลก และในไทย”
ทั้งนี้ ซัมซุงวางตำแหน่งทางการตลาดสำหรับกล้องมิร์เรอร์เลสไว้ว่าเป็นสมาร์ทคาเมราที่สามารถเชื่อมโยงเข้าไวไฟได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการต่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี หรือแม้กระทั่งฮอตสปอตไวไฟปกติ เพราะในตัวกล้องยังมีการติดตั้งเบราว์เซอร์สำหรับในงานอินเทอร์เน็ตมาให้ด้วย
“ซัมซุงตั้งเป้าสำหรับกล้องมิร์เรอร์เลสในปีนี้ไว้ว่าต้องติดท็อปทรีให้ได้ ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 15%”
ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น