ยังมีเรื่องของโอเอสรุ่นล่าสุดที่มีชื่อว่า Android 4.2 Jelly Bean
แม้ Android 4.2 จะไม่ได้มีการปรับเปลียนกลไกการทำงานของ Android 4.1 แบบยกเครื่องครั้งใหญ่ แต่ลูกเล่น หรือฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในโอเอสเวอร์ชันนี้ ถือได้ว่า มันพลิกโฉมการใช้งานสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต (Nexus 4 & Nexus 10) ได้ไม่น้อยเหมือนกัน และเมื่อโอเอสตัวใหม่เข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่สเป็กไฮเอ็นด์สุดๆ คำถามจึงเกิดขึ้นกับผู้บริโภคที่เฝ้าติดตามข่าวคราวของแก็ดเจ็ตเหล่านี้ว่า แล้วพวกเขาจะได้ใช้อะไรเจ๋งๆ กันบ้าง ซึ่บนอกจากลูกเล่นอย่าง โฟโต้ สเฟียร์ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปต่อเนื่องรอบคัวเราเป็นทรงกลมแบบ panoramic (มุมมองแบบเดียวกับใน Google Streetview) แล้ว ใน Play Store ของ Android 4.2 ยังมีฟังก์ชันสำหรับการชอปปิ้งเพลงอีกด้วย แต่สำหรับฟีเจอร์ที่จะแนะนำต่อไปนี้ ผู้ใช้หลายๆ น่าจะชอบ และทำให้รู้สึกอยากใช้โอเอสตัวนี้มากขึ้น
มิราแคสท์ (Miracast) สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้าไปใน Android 4.2 นี้ สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ว่า มันคล้ายกับ AirPlay บน iOS 5 และ Mac OS X Mountain Lion ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถโยนภาพบนหน้าจอขึ้นไปแสดงผลบน Apple TV โดย Miracast บน Android 4.2 จะให้คุณผู้อ่านสามารถใช้งานในลักษณะเดียวกันนี้บนทีวี เครื่องเล่นดีวีดี แท็บเล็ต และสามาร์ทโฟนที่สนับสนุน Miracast ซึ่งความจริงมันก็คือ เทคโนโลยี Wi-Fi Direct หรือ WiDi ที่ใช้โพรโตคอลที่เข้ากันได้กับ 802.11n สำหรับการแชร์หน้าจอแสดงผลนั่นเอง โดยผู้ใช้สามารถสตรีมอินเทอร์เน็ตทีวี และภาพยนตร์จากสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของคุณขึ้นไปเล่นบนทีวีได้ สำหรับอะแดปเตอร์ Miracast ที่ใช้ต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ จะวางขายในช่วงไตรมาสนรี้
การพิมพ์ด้วยวิธีลากนิ้ว แทนการแตะคีย์ตัวอักษร สำหรับคุณผู้อ่านที่คุ้นเคยกับแอพฯ Swype คีย์บอร์ดบนหน้าจอ คุณจะชอบคีย์บอร์ดของ Android 4.2 เพราะมันมีฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานเหมือนกัน ซึ่งการพิมพ์ตัวอักษรบนคีย์บอร์ดจะใช้การลากนิ้วไปตามตัวอักษรที่ต้องการแทน โดยเราเรียกเทคนิคนี้ว่า Gesture Typing อย่างไรก็ตาม มันอาจจะไม่เก่งเท่า Swype แต่รับรองว่า น่าใช้ไม่แพ้กัน
สนับสนุนมัลติยูสเซอร์ ฟีเจอร์นี้จะเหมาะกับแท็บเล็ต Android 4.2 มากกว่าสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้จะสามารถเปิดบัญชีผู้ใช้หลายคนได้บนเครื่องเดียว โดยผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถตั้งค่าการใช้งานที่แตกต่างกันไปได้ ไม่ว่าจะเป็น โฮมสกรีน แบคกราวด์ วิดเจ็ต แอพฯ และเกมส์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้แต่ละคนได้ประสบการณ์ในการใช้งานตามความถนัด หลังจากที่ล็อกอินต้วยบัญชีผู้ใช้ของตนเองบนแท็บเล็ต เหตุผลที่ไม่มีฟังก์ชันนี้บนสมาร์ทโฟน อาจจะเป็นเพราะหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนหลายยูสเซอร์ที่จดโดยโนเกียก็เป็นได้ อีกประการหนึ่งคือ คงไม่มีใครอยากให้สมาร์ทโฟนที่เป็นของใช้ส่วนตัวรองรับการใช้งานได้หลายคนสักเท่าไร ขนาดคนขอยืมมือถือเราใช้ เรายังกังวลเลย แต่ถ้าเป็นแท็บเล็ต เรายังไม่ค่อยรู้สึกสักเท่าไร
สมาร์ทสกรีนเซฟเวอร์ Android 4.2 จะมาพร้อมกับสมาร์ทสกรีนเซฟเวอร์ที่เรียกว่า Daydream ซึ่งเป็นโปรแกรมรักษาจอภาพที่เก่งขึ้น โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้มันแสดงภาพถ่ายในเครื่องแบบ Photo Slideshows, ข้อความพาดหัวข่าวจากแหล่งข่าวต่างๆ ฯลฯ นั่นหมายความว่า เมื่อคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาสักระยะหนึ่ง สกรีนเซฟเวอร์จะฟีดข่าวๆ ตามหัวข้อที่เลือกไว้ขึ้นมาในขณะทีมันพักหน้าจอ หรืออาจจะตั้งเป็นราคาหุ้นในตลาดก็ได้ (สำหรับนักเล่นรายวัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น